ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรดีๆ คู่คนไทยมานาน

ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรพื้นบ้านที่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในลำดับต้นๆ ในช่วงเวลานี้

ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata) เชื่อว่าเกือบทุกคนรู้จักสมุนไพรไทยตัวนี้มาไม่มากก็น้อย สมุนไพรไทยฟ้าทะลายโจรนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความขม ซึ่งอาจจะขมมากเสียกว่าบอระเบ็ดเสียอีก ด้วยคุณสมบัติที่จะว่าเป็นยาเย็นเอาไว้ใช้ในการรักษาอาการไข้กันมาในหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่โบราณนานมา และในตอนนี้ ฟ้าทะลายโจร อาจจะเป็นฮีโร่ในการกอบกู้สถานการณ์ โดยเฉพาะคนไทยเราๆ นี้

จากสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่คนทั้งโลกแทบไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เป็นอะไรที่ทำให้การใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความยากลำบาก ด้วยเจ้าเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็น แถมแทบไม่รู้เลยว่าจะติดมากับใครเมื่อไร เราทุกคนได้แต่ตั้งสติดูแลตัวเองเริ่มตั้งแต่การใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์กันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันกันไปแล้ว จนกระทั่งเริ่มมีการพัฒนาวัคซีนในการรับมือกับวิกฤตินี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น การแพร่ระบาดหลายๆ ระรอกยังเกิดขึ้นทั่วโลก

ในขณะที่เราต้องดิ้นรนรับมือกัน กลับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นที่เป็นแสงสว่างให้ได้เห็นกันบ้างโดยเฉพาะคนในประเทศเรา เมื่อเริ่มมีการค้นพบว่า ฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นสมุนไพรซึ่งใช้บำบัดอาการไข้หวัด เป็นของที่มีอยู่และใช้กันมาเนิ่นนานตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน มีคุณสมบัติในการต่อต้าน และรับมือโรคอุบัติใหม่นี้ได้ โดยเริ่มตั้งแต่มีการค้นพบจากการทดลองในหลอดทดลอง และมีการนำมาใช้จริง และได้ผลในเคสที่เป็นจุดใหญ่ๆ ในหลายๆ ที่ ทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ฟ้าทะลายโจรนี้แหละที่จะเป็นอีกหนึ่งทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติในครั้งนี้ได้

ฟ้าทะลายโจร กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และต้านไวรัสที่ทำเกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจ

ด้วยงานวิจัยล่าสุดพบว่า ฟ้าทะลายโจร มีสารสำคัญ สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่ช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ในทุกระยะและช่วยยับยั้งการอักเสบ และยังมีสารประกอบสาร Lactone 4 ชนิดที่มีฤทธิ์เย็นหนืด ช่วยจับโปรตีนของไวรัสให้อยู่กับที่ ทำให้ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรต้านไวรัสได้ดียิ่งขึ้น และช่วยป้องกันผลข้างเคียงจากยาปฏิชีวนะได้ ลดการบีบตัวของลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสีย ช่วยรักษาอาการไอ เจ็บคอป้องกันและบรรเทาหวัด

มีงานวิจัยจากประเทศชิลี ที่ศึกษาทดลองทางคลีนิกในผู้ป่วย เพื่อพิสูจน์ประสิทธิผลของสารสกัดฟ้าทะลายโจร ในการรักษาอาการอันเนื่องจากหวัดทั่วไป (Common Cold) พบว่าสามารถลดอาการรุนแรงของโรคอันเนื่องจากหวัดได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าใน 3 วันแรกของกลุ่มทดลองที่ได้รับฟ้าทะลายโจรขนาด 6,000 มก./วัน มีผลช่วยลดอาการไข้ และอาการเจ็บคอได้ 80-90%

และงานวิจัยในบางประเทศยังพบว่า ฟ้าทะลายโจร 1,200 มก./วัน ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ในผู้ที่เป็นหวัด

ช่วยลดอาการผิดปกติของปอด ลดจำนวนไวรัสในปอด และลดอัตราการเสียชีวิตของสัตว์ทดลองที่ติดเชื้อไวรัส H5, H9N2, H1N1 และ influenza A ได้ดี ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส H5N1 ในหลอดทดลองได้

ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่เคียงคู่อยู่กับคนไทยมายาวนาน มีสรรพคุณในการลดไข้ และบรรเทาอาการหวัด ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์แผนไทยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

เราจึงต้องเน้นศาสตร์ในการป้องกันดูแลตัวเองไม่ให้เจ็บป่วยงาย ไม่เช่นนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อคนในครอบครัว ยิ่งหากเรายังต้องเป็นหลักในการหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้กับครอบครัวแล้ว ยิ่งต้องเน้นการรักษาสมดุลของร่างกาย ทานอาหารดีๆ พักผ่อนให้เพียงพอ

ฟ้าทะลายโจรแคปซูล

สมุนไพรที่ได้รับการยอมรับมานาน ในเรื่องการรับประทานเพื่อรักษาอาการเกี่ยวกับไข้หวัดมาหลายชั่วอายุคน

กินฟ้าทะลายโจร เพื่อ “ป้องกัน” (For Prevention)

แบบใบสด ประมาณวันละ 2-3 ใบ เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 เดือนในช่วงฤดูหนาว จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายได้

แบบตากแห้งแล้วบดใส่แคปซูล กินวันละ 1 แคปซูล (ประมาณ 500 มิลลิกรัม) ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน ระยะเวลาและขนาดปริมาณประมาณนี้ยังไม่มีผลข้างเคียงเรื่องการทำลายตับ

มีงานวิจัยคำนวณอิงสารแอนโดกราโฟไลด์เพื่อป้องกันหวัดจะใช้ปริมาณ 11.2 มิลลิกรัมต่อวัน กิน 5 วันต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 3 เดือน มีผลป้องกันหวัดได้

กินฟ้าทะลายโจรเพื่อ “รักษาอาการ” (For Treatment)

สำหรับปริมาณการรักษา หมอแนะนำให้เลือกแบบตากแห้งแล้วบดใส่แคปซูล กินครั้งละ 1,500-3,000 มิลลิกรัม จำนวน 4 ครั้งต่อวัน หรือประมาณ 2-4 แคปซูล วันละ 3 มื้อ ระยะเวลา 5 วัน (หยุดกิน 2 วัน) หากอิงจากสารแอนโดรกราโฟไลด์ระดับในการรักษาคือ ประมาณ 60-120 มิลลิกรัมต่อวันนั่นเอง

ข้อควรระวังในการรับประทานยาฟ้าทะลายโจร

-ห้ามใช้ยาฟ้าทะลายโจรในผู้ที่มีอาการแพ้

-ห้ามหญิงตั้งครรรภ์หรือให้นมบุตรกินฟ้าทะลายโจร

-สำหรับคนที่ถ่ายเหลว ท้องเสียบ่อย ระบบย่อยไม่ค่อยดี ภาวะธาตุอ่อนไม่ควรกินฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน หากร่างกายเย็นไปจะทำให้ถ่ายท้อง ถ่ายเหลว เพิ่มขึ้นได้

-ไม่ควรรับประทานในขนาดสูงติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจเสี่ยงทำให้แขนขาเป็นเหน็บชาหรืออ่อนแรง ท้องเสีย เนื่องจากยามีฤทธิ์เย็น ทำให้เลือดเดินไปเลี้ยงส่วนแขนขาติดขัด ระบบย่อยลำบาก

-หากรับประทานยาฟ้าทะลายโจรเพื่อลดอาการเจ็บคอ เมื่อครบ 24 ชั่วโมง แล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงกว่าเดิม ควรหยุดรับประทานแล้วพบแพทย์

-ควรระมัดระวังในการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรควบคู่ไปกับยาลดความดันเพราะอาจเสริมฤทธิ์กันให้ความดันโลหิตลดมากกว่าเดิมได้

-ควรระมัดระวังในการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรควบคู่ไปกับยาที่มีสารกันเลือดเป็นลิ่มและยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด เช่น วาร์ฟาริน แอสไพริน เป็นต้น

เพราะฉะนั้นสำหรับฟ้าทะลายโจร หมอถือว่าเลือกกินตามอาการจะดีกว่า เมื่ออาการดีขึ้นจึงหยุดยา ด้วยความที่ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นและมีรสขม เมื่อกินเข้าไปติดต่อกันจะทำให้ร่างกายเย็น สำหรับแผนจีนเมื่อร่างกายเย็นมากจะทำให้เลือดลมไม่หมุนเวียน มักมีอาการอ่อนเพลีย บางคนอาจมีอาการท้องเสีย

ส่วนรูปแบบในการกินฟ้าทะลายโจรนั้น แนะนำให้กินแบบสด หรือตากแห้งแล้วบดหยาบมากกว่า เพราะจะได้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์เดี่ยว เนื่องด้วยในฟ้าทะลายโจรแบบยังไม่ได้สกัดจะมีสาร Lactone ที่จะช่วยจับโปรตีนของไวรัสได้ดีกว่า ทำให้ฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจรแบบไม่สกัดทำงานต้านไวรัสได้ดีกว่า แต่จำนวนเม็ดที่กินอาจจะต้องมากกว่าแบบสกัด เพื่อให้ได้ฤทธิ์ถึงในระดับการรักษาอาการป่วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม การกินฟ้าทะลายโจรสามารถกินเพื่อการดูแลรักษาตนเองเป็นเบื้องต้น สร้างความแข็งแรง เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย แต่ควรกินในปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

4 กลไกต้านไวรัสของ ฟ้าทะลายโจร / 4 Anti-Viral of Andrographis

  1. ป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ Prevent the virus entering into cells
  2. ลดการแบ่งตัวไวรัสภายในเซลล์ Reduce virus cell division
  3. เพื่อภูมิคุ้มกันในการต่อสู้ไวรัส Boost immune
  4. ลดการอักเสบที่ปอดจากการติดเชื้อไวรัส Ameliodrate lung inflammation from viral infection


คำแนะนำโดยรวมในการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร

  1. บรรเทาอาการเจ็บคอ
  2. บรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

ขนาดและวิธีใช้

  • รับประทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม – 2 กรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน

ข้อห้ามใช้

  • ห้ามใช้ ในผู้ที่มีอาการแพ้ ฟ้าทะลายโจร
  • ห้ามใช้ ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากอาจทำให้เกิดทารกวิรูปได้

คำเตือน

  • หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง
  • หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือ มีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ ยา ควรหยุดใช้ และพบแพทย์
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulants) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยาลดความดันเลือดเพราะอาจเสริมฤทธิ์กันได้
  • ควรระวังการใช้ร่วมกับยาที่กระบวนการเมแทบอลิซึม ผ่านเอนไซม์ Cytochrome P450 (CYP) เนื่องจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ CYP1A2, CYP2C9 และCYP3A4

อาการไม่พึงประสงค์

  • อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติของทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ เบื่ออาหาร วิงเวียนศีรษะ ใจสั่น และอาจเกิดลมพิษได้

อ้างอิง  http://kpo.moph.go.th/webkpo/tool/Thaimed2555.pdf https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/files/0484.pdf การแพทย์แผนไทยประยุกต์ศิริราช

ฟ้าทะลายโจรขึ้นบัญชียาหลัก

ประเทศไทยบรรจุสมุนไพรฟ้าทะลายโจรให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ หรือบัญชียาจากสมุนไพรของกระทรวงสาธารณสุข จัดอยู่ในหมวดหมู่ยารักษาโรค กลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ และระบบทางเดินอาหาร

ข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่า สมุนไพรฟ้าทะลายโจรสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต้านการอักเสบ ช่วยลดไข้ สามารถต้านเชื้อโรคโคโรนาไวรัสที่ก่อโรคซาร์สได้

บทสรุป

ในปัจจุบันมีผู้นำสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากได้มีการอ้างอิงถึงสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรในการรักษาหรือยับยั้งอาการต่างๆ ได้ดี ทั้งจากเอกสารการวิจัยภายในประเทศ และต่างประเทศ

แต่อย่างไรก็ตามการนำฟ้าทะลายโจรมาใช้ในการรักษาโรคนั้น ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของสมุนไพรด้วย สารสำคัญในฟ้าทะลายโจรมีด้วยกันหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิด ก็จะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคที่แตกต่างกัน

ดังนั้นการเตรียมวัตถุดิบฟ้าทะลายโจร โดยเริ่มตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การแปรรูป รวมถึงการเก็บรักษาวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ ก็อาจส่งผลให้ฟ้าทะลายโจรที่นำมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ในลักษณะผงหยาบ จะมีปริมาณสารสำคัญที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ซึ่งก็จะทำให้ฟ้าทะลายโจรนี้ ให้ผลในการรักษาโรคไม่เหมือนกัน หรืออาจจะมีอาการข้างเคียงแตกต่างกันก็ได้ ซึ่งทางสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้เล็งเห็นความสำคัญของการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรนี้

จึงได้พัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์สารสำคัญต่างๆ ที่มีในฟ้าทะลายโจรที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพื่อให้สามารถทราบปริมาณสารสำคัญเหล่านี้ที่แน่นอนในฟ้าทะลายโจรที่นำมาใช้ จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันโรคดียิ่งขึ้น และผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรเหล่านี้ ก็ควรจะต้องไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์และโลหะหนัก รวมถึงยาฆ่าแมลงเกินปริมาณมาตรฐานที่กำหนดไว้ของสมุนไพรด้วย

นอกจากนี้ การออกฤทธิ์ของฟ้าทะลายโจร ยังขึ้นอยู่กับการปลดปล่อยและการดูดซึมของสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร เมื่อบริโภคเข้าไปในร่างกายแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า สารสำคัญในฟ้าทะลายโจรเหล่านี้ จะสามารถออกฤทธิ์ในการรักษาได้ดีมากน้อยแค่ไหน
การที่สารสำคัญเกิดการเปลี่ยนรูปเมื่อเข้าสู่ร่างกาย อาจส่งผลให้สารนั้น กลายเป็นสารที่ไม่มีฤทธิ์ในการรักษาเลยก็ได้ ดังนั้น การนำฟ้าทะลายโจรมาใช้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพดี จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น คุณภาพวัตถุดิบ สารสำคัญในผลิตภัณฑ์ รวมถึงรูปแบบผลิตภัณฑ์ หรือการนำส่งยา เป็นต้น

ช่องทางสั่งซื้อยาฟ้าทะลายโจร

ท่านสามารถดำเนินการสั่งซื้อแบบง่ายๆ ด้วยการแอดไลน์ ไอดี @384jjjpu หรือส่อง / แตะเพิ่มเพื่อนที่คิวอาร์โค้ดนี้

หรือขอคำปรึกษาผลิตภัณฑ์

แตะ หรือส่องเพื่อเพิ่มเพื่อน